แจ้งความอย่างไรเมื่อโจรขึ้นบ้าน

Last updated: 18 มิ.ย. 2563  |  801 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แจ้งความอย่างไรเมื่อโจรขึ้นบ้าน

     “โจรขึ้นบ้าน” เป็นเหตุการณ์ที่คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับบ้านของตัวเอง เพราะแค่ดูจากในข่าวก็เครียดแล้ว แต่ลองจินตนาการดูสิว่า ถ้าโจรขึ้นบ้านเราจะทำยังไง ?
.
     แน่นอนว่าหลาย ๆ คนน่าจะนึกถึงตำรวจและการแจ้งความเป็นอันดับแรก ๆ หลังจากเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ว่าขั้นตอน วิธีการ และเอกสารในการแจ้งความมีอะไรบ้าง ซึ่งถ้าไม่รู้อะไรแบบนี้มาก่อนการแจ้งความของเราอาจจะไม่ได้อะไรเลย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีหลักฐานที่เพียงพอ หรือไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น เนื่องจากความไม่พร้อมของข้อมูลของเรา
.
     บทความนี้จะมาชี้แจงแถลงไขให้ทุกคนได้ทราบไปพร้อม ๆ กันว่า “ต้องแจ้งความอย่างไรเมื่อโจรขึ้นบ้าน”

     หลังจากที่ทราบว่ามีเหตุโจรขึ้นบ้าน วิธีแรกที่ทุกคนควรจะทำมากที่สุดคือ “ตั้งสติ” เพราะถ้าไม่มีสติเราก็จะลนลานทำอะไรไม่ถูก จนอาจจะพลาดการเก็บหลักฐานในการจับตัวคนร้ายก็ได้ ดังนั้นอย่างแรกเลยคือควรมีสติก่อนนะ
.
     เมื่อมีสติพอที่จะเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แล้ว ให้รีบโทรแจ้ง 191 เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่บ้านของเรา เขาจะได้ส่งหน่วยพิสูจน์หลักฐานมาเก็บข้อมูลและหลักฐานเบื้องต้นที่จุดเกิดเหตุ และถ้าที่บ้านทำประกันภัยต่าง ๆ ไว้ ให้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เช่นกัน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามที่ควรจะได้


     หลังจากนั้นให้ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในบ้าน ทั้งทรัพย์สินหรือร่างกาย (หากมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น) แล้วถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป
.
     อันนี้เป็นเพียงวิธีการเบื้องต้นที่ควรจะทำเมื่อเกิดเหตุโจรขึ้นบ้าน ต่อไปเราจะมาดูกันว่า หากเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ต้องเตรียมข้อมูลและเอกสารในการแจ้งความอย่างไร

     เอกสารและข้อมูลเบื้องต้นที่ควรมีเมื่อต้องไปแจ้งความ เพื่อความรวดเร็วและถูกต้องในการดำเนินการ

1. ระบุวัน เวลา และสถานที่เกิดเหตุให้ถูกต้อง เพราะถ้ามีข้อมูลผิดพลาดเพียงนิดเดียว ศาลอาจจะยกฟ้องได้
2. พยายามนึกและจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เช่น ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ในตอนนั้น เพื่อจะได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างชัดเจนและครบถ้วน
3. เตรียมบัตรประชาชน หรือใบแทน ฯ หรือ
4. บัตรประจำตัวข้าราชการ หรือ
5. ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือ
6. หนังสือเดินทาง (Passport) สำหรับชาวต่างชาติ
7. ในกรณีที่จะไปแจ้งความแทนคนอื่น ให้นำเอกสารเหล่านี้ไปด้วย
    7.1 ใบสำคัญแสดงการเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์
    7.2 ใบสำคัญแสดงการเป็นผู้อนุบาลของผู้ไร้ความสามารถ (ตามคำสั่งศาล)
    7.3 ในกรณีที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายถึงตาย หรือบาดเจ็บจนไม่สามารถจัดการเองได้ ให้นำหลักฐานที่แสดงว่าคุณเป็นผู้ปกครอง ลูกหลาน หรือสามีภรรยา (จดทะเบียนสมรส) มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    7.4 ใบสำคัญแสดงการอนุญาตของสามีหรือภรรยา แล้วแต่กรณี ให้ร้องทุกข์แทนหรือเป็นตัวแทนโดยสมบูรณ์
    7.5 ในกรณีที่เป็นผู้แทนของนิติบุคคล ให้นำ
      7.5.1 หนังสือมอบอำนาจของนิติบุคคลเป็นหลักฐาน พร้อมทั้งติดอากรแสตมป์ 5 บาท
      7.5.2 หนังสือรับรองนิติบุคคลนั้นของกระทรวงพาณิชย์

     หากต้องการแจ้งความเรื่องทรัพย์สินหาย ให้เตรียมข้อมูลและหลักฐานดังต่อไปนี้
1. ใบเสร็จรับเงินซื้อขาย หรือหลักฐานแสดงการซื้อขายสินทรัพย์นั้น
2. รูปพรรณของทรัพย์สินนั้น ๆ (ถ้ามี)
3. ตำหนิหรือลักษณะพิเศษต่าง ๆ
4. เอกสารสำคัญต่าง ๆ เท่าที่มี
.
     ในกรณีที่ต้องการแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกฆ่า ต้องเก็บหลักฐานมาแจ้งเจ้าหน้าที่ดังนี้
1. อาวุธที่คนร้ายทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ หรือพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
2. ให้รักษาสภาพของสถานที่เกิดเหตุเอาไว้ให้เหมือนเดิมที่สุด อย่าให้ใครเข้าไปแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ จนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุ
3. รายละเอียดเรื่องราวเท่าที่สามารถเรียบเรียงได้ เพื่อแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
.
หรือต้องการแจ้งความเรื่องทำให้เสียทรัพย์ จะต้องเตรียม
1. หลักฐานต่าง ๆ แสดงการเป็นเจ้าของหรือครอบครองทรัพย์สินนั้น
2. หลักฐานหรือสิ่งของที่เสียหายเท่าที่มีหรือเท่าที่นำไปได้
3. หากเป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ เคลื่อนที่ไม่ได้ หรือไม่สามารถนำติดตัวไปได้ ให้เก็บรักษาไว้อย่าให้เกิดการเสียหายมากขึ้น เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป

     แต่วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไม่ให้เกิดเหตุร้าย ๆ ขึ้นก็คือ การติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยและกล้องวงจรปิด ซึ่งจริง ๆ แค่สัญญาณกันขโมยก็เอาอยู่แล้วในการทำให้โจรตกใจและหนีไป เพราะเมื่อมีการบุกรุกเกิดขึ้นจะมีการส่งเสียงไซเรนออกมา เหมือนเป็นการแสดงออกให้รู้ว่าเรารู้แล้วนะว่าคุณจะมาขโมยของในบ้านเรา รีบออกไปซะถ้าไม่อยากถูกจับ หรือถ้าถูกบุกรุกตอนที่ไม่อยู่บ้านก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีแจ้งเตือนผ่าน Application ส่งตรงถึงสมาร์ทโฟนของคุณเช่นกัน ทำให้ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวภายในบ้านแม้เราจะไม่อยู่ก็ตาม แต่ถ้ายังไม่อุ่นใจจะติดกล้องวงจรปิดเพิ่มด้วยก็ได้ จะได้มีตัวช่วยในการบันทึกภาพการบุกรุก เพื่อเป็นหลักฐานชั้นดีในการนำไปแจ้งความต่อไป

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้